Nymphomaniac: Vol. II (2013)

 

Nymphomaniac: Vol. II (2013 / Lars von Trier)
(Denmark / Germany / Belgium | UK / France / Sweden)

เริ่มครึ่งหลังแบบไม่มีย้อนความครึ่งแรกใด ๆ ทั้งสิ้น เดินเรื่องต่อเนื่องกันไปเลยเหมือนกับว่านี่เป็น VCD 2 แผ่นจบยังงั้นแหละ

สิ่งแรกที่ไม่เคยเอะใจเลยทั้ง ๆ ที่มันต้องเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้ชาย คือหญิงผู้เล่าเรื่องก็เห็นประจำตอนที่เธอเล่าเรื่องเธอให้คนอื่นฟัง พวกเขาจะแสดงอาการอยากรู้อยากเห็นลุ้นกับเรื่อง แสดงอารมณ์ตอบสนองท่าทีแตกต่างกันไป ผู้เล่าจึงเอะใจในตัวผู้ฟัง ว่าเขาไม่เหมือนคนอื่น เหมือนกับว่านี่คือเรื่องเล่าที่ต้องตั้งใจฟังเก็บรายละเอียดอย่างมีสมาธิที่สุด จนมาคลายความสงสัยในที่สุดว่า ผู้ฟังคู่สนทนาคนนี้เคร่งศาสนาไฝ่ศึกษา แล้วยังซิง ตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตมาเขาก็ไฝ่เรียนเรื่องเซ็กส์อย่างเต็มที่ไปด้วยแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ความรู้ที่ศึกษากับหญิงคนไหนเลยซักคน และการได้มาพบเจอประสบการณ์ชีวิตเซ็กส์โลดโผนโจนทะยานจากปากผู้หญิงคนนี้ มันไม่ใช่เรื่องเล่าที่พบเจอได้บ่อย จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาตั้งใจฟังเรื่องเล่าจากปากผู้หญิงคนนี้อย่างตั้งอกตั้งใจ เป็นผู้ฟังที่ดีและแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างมีมารยาท

จากครึ่งแรกที่ผู้เล่าใช้ชีวิตเซ็กส์ที่โลดโผนเต็มเหนี่ยวแล้วจบครึ่งแรกลงด้วย อยู่ ๆ ก็ไร้อารมณ์ทางเพศแบบกระทันหัน มาครึ่งหลังนี้จึงไม่ใช่การมีเซ็กส์แบบเต็มอิ่มหิวกระหายอีกต่อไป แต่เป็นการพยายามหาวิธีปลุกอารมณ์ทางเพศตัวเองให้ขึ้นมาใหม่ให้ได้ อาจจะไม่ใช่จากการมีเซ็กส์กับคนรักคนเดิม เพราะมันไม่ได้ผล เธอจึงต้องอัพเลเวลเซ็กส์ของตัวเองขึ้นไป ก็มีทั้งลองของคนดำแบบแซนวิส สุดท้ายเธอก็เจอสิ่งที่สามารถปลุกอารมณ์ทางเพศเธอให้กลับมาและจนถึงจุดสุดยอดน้ำแตกอีกครั้ง สิ่งที่ว่าคือ การเสพความเจ็บปวดทางร่ายกายด้วยการโดนทำร้ายจากน้ำมือคนอื่น จากช่วงเธอได้ของขวัญคริสมาสต์คือการโดนหวดด้วยแส้เชือกมัดปมหล่ยเส้น 40 ทีที่ก้น ตรงนี้ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร แต่ผู้ฟังเอะใจพูดขึ้นว่า นี่มันคือการลงโทษขั้นสูงสุดเลย หวดด้วยแส้ 40 ทีรวดเดียวเลยเนี่ยนะ หนักน่าดู แทนที่แบ่งเป็น 3 ยก เหมือนตอนที่เยซูถูกหวดด้วยแส้เหมือนกัน แต่เพื่อความลงตัวจำนวนเต็มจึงลดลงเหลือ 39 ที

พอเข้าช่วงปลาย ตอนที่เธอได้งานใหม่ทำ ด้วยประสบการณ์เฉพาะทางที่โชกโชนของเธอ นี่จึงเป็นงานที่ใช้สำหรับเธอ (โคตรขำกับเครื่องจับเท็จเฉพาะกิจของเธอ) จนเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายของเรื่องเล่านี้ มันดันลงเอยด้วยการเป็นหนังรัก ชอกช้ำระกำทรวงแบบไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่าจากหนังพุ่งประเด็นเซ็กส์หนัก ๆ แรง ๆ มันจะลงเอยด้วยอารมณ์ใจสลายได้เยี่ยงนี้

แต่ที่พีคสัส คือ ตอนจบนี่แหละ โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายนั่น เล่นเอาขำพรวดหัวเราะลั่นเลย

จะว่าส่วนที่สนุกในครึ่งแรกอย่างการพูดคุยกันของผู้เล่ากับผู้ฟังหลังเล่าจบหนึ่งตอน มันก็พอมีบ้างแต่เพราะส่วนนี้ในครึ่งแรกมันดูดความสดใหม่น่าสนใจไปหมดแล้ว การมีอยู่ครึ่งหลังจึงรู้สึกเฉย ๆ กับมันซะมากกว่า แต่ก็ถูกแทนที่เติมเต็มส่วนที่ด้อยลงไปด้วยความเข้มของเเรื่องเล่าแต่ละตอนแทน