Short Note *1
American Beauty (1999)
ตัวเอกของเรื่อง สปอยเองตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยว่า ท้ายเรื่องตัวเองจะตาย !!
และอีกอย่างที่ไม่เข้าใจคือ ลูกสาว ทำไมจึงอยากจะไปเสริมหน้าอก ทั้ง ๆ ที่ของตัวเองก็ใหญ่อยู่แล้ว ..
*
The Possession (2012)
กล่องใบนี้มีผีเมื่อเปิดออกผีก็หลุึด ก็เหมือนหม้อดินของไทยที่ใส่ผีถ่วงน้ำ เมื่อเปิดผีหลุดเหมือนกัน
ความน่ากลัวมาแบบวูบวาบ สยองขนลุกเป็นบางเวลา แต่โดยรวมทั้งหมด ไม่ปลื้ม
*
Taken 2 (2012)
ดิบสู้ภาคแรกไม่ได้ ความมันส์พอ ๆ กัน มีฉากแอคชั่นเยอะกว่าภาคแรกอยู่
*
Garden State (2004)
ไม่ค่อยถูกกับแนวนี้เลย แม้จะพอมีอะไรน่าสนใจให้น่าติดตามในเรื่องอยู่บ้าง แต่ฉันก็ยังรู้สึกน่าเบื่ออยู่ดี
*
Empire Records (1995)
ก็ดูได้เรื่อย ๆ นะ แต่ไม่ค่อยโดนใจซักเท่าไหร่ ออกไปทางเฉย ๆ มากกว่าน่าสนใจหรือสนุก
คือที่จะดูเรื่องนี้ ก็เพราะ Liv Tyler คนนี้คนเดียวเลย ♥
*
Skyfall (2012)
เริ่มเรื่องเป็นต้นไป 9.8
โดนคุกคามทางเพศ 10+++
ท้ายเรื่องจนจบ 7.9
*
Spider (2002)
ดำเนินไปอย่างเฉื่อย ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความป่วยของคน ๆ หนึ่ง
ซึ่งเราก็ไม่สามารถเชื่อได้ว่า อดีตนั้น เป็นเรื่องจริง หรือว่าคนนี้คิดไปเอง ใส่เรื่องราวไปเอง
บางเหตุการณ์ในอดีตนั้น สมจริง แปลกและหลอกหลอนมาก สมแล้วที่เป็นหนังของ David Cronenberg
*
Paranormal Activity 4 (2012)
หนักที่สุดใน 3(+1) ภาคที่ผ่านมา ถ้าไม่ได้น้องหนู Kathryn Newton ที่ดูสวยมั่งน่ารักมั่งละก็คงหลับไปแล้ว
หนักในที่นี้คือ ห่วย (คือฉันไม่ชอบอย่างแรง) นั่นแหละ
*
Savages (2012)
ในเรื่อง ชอบ John Travolta มากที่สุดแล้ว รองลงมาก็ Salma Hayek นี่แหละ
มีความขำแอบจิดกัดแสบ ๆ ที่นักแสดงบางคนอาจจะสะดุ้งแซม ๆ อยู่บ้าง โดยเฉพาะสองคนที่กล่าวถึง
อารมณ์หลังดูจบ คือ ” เหอะ ๆ ”
*
Dexter S7
คนรักที่เข้าใจ กับครอบครัวที่เข้าใจ เป็นโจทย์หนักที่ Dexter จำเป็นต้องเลือก
ตำรวจ,กฏหมาย กับ ผู้ร้าย,ฆาตกร เป็นคำถามที่ถูกตั้งขึ้นเมื่อเริ่มซีซั่น และเริ่มโอนเอียงโซเซไปมาในช่วงกลาง ๆ ที่ไม่แน่ใจว่าอย่างไหนกันแน่ คือความสำคัญ ระหว่างความถูกต้องหรือสิ่งที่ต้องปกป้อง
และตอนสุดท้ายของซีซั่น 7 นี้ (Ep12) เข้าขั้นร้ายแรง ถึงกับช็อคจนลืมหายใจ สมดั่งชื่อตอน “Surprise, Motherfucker!”
*
สาระแน โอเซกไก
หนังตลกไทย ที่ไปถ่ายทำถึงญี่ปุ่น
แต่เหตุไฉน นักแสดงญี่ปุ่นทั้งหลาย แสดงได้ฮาเล่นได้ตลกไหลลื่นกว่าคนไทยในเรื่องถึง 120%
*
The Exterminating Angels (2006)
_________________________________________
นี่คงเป็นเส้นกราฟความรู้สึกที่ได้จากเรื่องนี้ คือ นิ่งเฉย ไปเรื่อย ๆ จนจบ ไม่มีความน่าสนใจซักเท่าไหร่ หรือ สะกิดต่อมเร้าอารมณ์ซักนิดนึง ยังไม่มี แม้จะมีฉากโป๊ ๆ ของผู้หญิงในเรื่องมากมาย แต่ก็ไม่ช่วยให้ฉันชื่นชอบหรือถูกใจหนังเรื่องนี้ขึ้นเลยซักนิด
อย่าไปจำชื่อเรื่องหนังเรื่องนี้สลับกับ The Exterminating Angel (1962) ของ Luis Buñue ล่ะ ต่างกันตัวอักษรเดียวเอง คือ s ปิดท้าย
*
Watching the Detectives (2007)
แรก ๆ ก็น่าสนใจ แต่หลัง ๆ ไปเริ่มจืดชืดโคตร ๆ
*
Premium Rush (2012)
วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่งไป ไป ไป ไป
ง่อยแดกที่ีสุด คือการระดมพลนี่แหละ
*
The Thieves (2012)
คล้าย ๆ หนังปล้นรวมดาวตระกูล Ocean แต่แตกต่างกันหน่อยตรงที่ ทีมรวมดาวของ Ocean นั้น ค่อนข้างสามัคคีกัน แต่กับทีมรวมดาวปล้นของเกาหลีเรื่องนี้ มีส่วนน้อยมาก ที่จะเดินไปตามเกมหรือไปตามแผน เพราะมัวแต่จ้องจะหักหลัง (หน้าไหว้หลังหลอกนั่นเอง)
แต่ความสนุกนั้นไกล้เคียงกัน ฉันชอบอ่ะ หนังไม่ได้มีไฮไลท์โชว์แผนการปล้นเหนือไม่คาดคิดเหมือน Ocean แต่เป็นลักษณะนิสัยใจคอของแต่ละคน มีดราม่า มีบู๊แอคชั่น และก็แอบมีโรแมนติกปน ๆ อยู่ในช่วงเวลาไม่คาดคิด !!
นักแสดงสาวเล็กสาวใหญ่ในเรื่อง ต่างก็ไม่มีใครยอมใครจริง ๆ ดึงดูดซะจนฉันเลือกไม่ถูกเบย ฮ่า ๆ ๆ
*
12/12/12 (2012)
▬_▬
*
Man on Fire (2004)
ปูเรื่องครึ่งนึง อย่างอื่นครึ่งนึง
กับการปูเรื่องในช่วงแรก นับว่าได้ผลนะ ทำให้ฉันรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครทั้งสองคนนี้เป็นอย่างมาก และเมื่อมีเหตุร้ายเกิดกับทั้งสอง ก็คอยลุ้นให้กำลังใจอย่างเต็มที่
สปอยตอนจบ****
แอบเสียดายในความเป็นฮอลลีวูด ที่ยังไม่กล้าฆ่า(เด็ก)ตัวละครสำคัญที่สุดทิ้ง กลับยังคงให้มีชีวิตอยู่และเลือกที่จะให้อีกคนนึง จากไปพร้อมกับไฟแค้นที่มอดดับลงแทน
ถึงจะเสียดายแต่ก็คิดไม่ตกอยู่ดีว่า ถ้าให้เด็กตายแล้ว ตอนท้ายเรื่องตัวหนังจะเดินไปทางไหน และจะสามารถเลือกจบเรื่องลงแบบไหนดี
แต่ถึงฉันจะแอบบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็พอใจในฉากจบบทสรุปของหนังจริง ๆ อยู่ดี ^^
*
21 Grams (2003)
ว่าด้วยเรื่องการสูญเสีย คนที่สูญเสียคนสำคัญ ,คนที่สูญเสียตัวตนจากการพรากชีวิตผู้อื่น และคนที่ได้รับชิวิตใหม่จากการสูญเสีย
ส่วนในเรืองการนำเสนอของเรื่องนี้ ถ้าเป็นหนังปกติจะเริ่มจาก 1 → 100 จบ แต่กับเรื่องนี้ เท่าที่สัมผัสได้คือ ผู้กำกับแกเล่นเอาเรื่องราวทั้งหมดสับเป็นชิ้น ๆ สั้นยาวแตกต่างกันไป แล้วหยิบเอาบางชิ้นจากมาให้เราดูโดยไม่เรียงลำดับ เช่น อาจจะเริ่มด้วย 98 → 20 → 54 → 7 → 11 → 3 → 74 อะไรประมาณนี้จากทั้งหมด 100 ชิ้น ถ้ามองผ่าน ๆ จะดูเหมือนมั่ว ๆ หยิบสุ่ม ๆ มา แต่ถ้าพิจารณาซ้ำอีกทีแล้ว แต่ละชิ้นนั้นได้ผ่านการเนียงลำดับจากผู้กำกับมาแล้ว มีทั้งบิ้วอารมณ์ สะเทือนอารมณ์ หดหู่ และชวนให้สงสัยหลายต่อหลายครั้ง
*
American Horror Story : Asylum (2012)
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แค่ตอนแรกเองนะครับเนี่ย
*
American Horror Story: Asylum
ฉากนี้ ฉันขำมากเลย
เริ่มเข้าสู่กลาง ๆ เรื่อง มันเริ่มเฮี้ยนขึ้นเรื่อย ๆ คาดไม่ถึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือเรื่องราวสิ่งที่เห็นตรงหน้า !!!!!
*
Countdown (2012)
หนูน้อยทั้งหลาย พวกหนูจงเป็นเด็กดีนะ อย่าโกหก อย่าทำชั่ว มิฉะนั้นลุงเฮ.จะลงมาบังคับให้พวกหนู ๆ เปลี่ยนความคิดซะใหม่เอง
Recent Comments