Crimes of the Future (2022)

 

Crimes of the Future (2022 / David Cronenberg)
(Canada / Greece / UK)

โอย กว่าจะจับใจความหลักที่หนังจะเล่าได้ ก็ปาเข้าไปสี่สิบนาทีของหนังแล้ว (วิธีแก้ก็คือไปอ่านเรื่องย่อมาก่อนซะ)
แต่ถามว่าเข้าใจหนังอย่างถ่องแท้เลยไหม ตอบเลยว่าไม่ ถ้าถามว่าดูรู้เรื่องไหม ตอบเลยว่า นิโน่อย คือพอเข้าใจเส้นเรื่องหลักของสองตัวละครหลัก Saul Tenser (Viggo Mortensen) กับ Caprice (Léa Seydoux) กับสิ่้งที่พวกเขาทำก็คือ performance art ที่ใช้ประโยชน์จากร่างกายของ Saul ที่ไม่ปกติ ที่นำไปสู่ไอเดียในโชว์ต่อจากการโดนร้องขอให้ช่วยผ่าชันสูตรศพลูกชายที่ถูกแม่ฆาตกรรมของชายคนหนึ่งให้ที ที่ตัวเด็กมีอะไรพิเศษที่ผู้พ่อต้องการพิสูจน์ แล้วในกลุ่มของคนพ่อก็คือกลุ่มคนที่ตำรวจต้องการรวบอยู่ โดยสิ่งที่กลุ่มนี้เป็นมันดัดแปลงตัวเองจนขัดต่อหลักความเป็นมนุษย์กันอยู่หรือไม่ แล้วสุดท้าย จะมีโอกาสได้กินอาหารให้อร่อยถูกปากจนน้ำตาจะไหลหรือไม่

เส้นเรื่องหลักที่ยกมาคร่าวๆ นี้ มันยังรายล้อมไปด้วยรายละเอียดจากหลายตัวละครอีกที่ส่งผมรวมทั้งตัวหลักอีกยิบย่อยเยอะไปหมดแล้วอาจจะอยู่เบื้องลึกเบื้องหลังใดๆ ก็ตามได้ จนคิดว่าถ้าได้ดูซ้ำรอบสอง ก็คงจะเก็บตกได้รู้เรื่องกับหนังมากกว่าที่ได้ดูรอบแรกนี้แบบมึนๆ ได้พอสมควรแน่นอน

ตัวละคร Timlin (Kristen Stewart) นี่เหมือนนางรองที่ดูไม่สามารถแทรกเข้าไปยังความสัมพันธ์/คู่หูของ Saul Tenser กับ Caprice แต่อย่างหนึ่งเลยที่ Timlin ทำได้ก็คือการพา Saul กลับไปสัมผัสความ old school อย่างหนึ่งที่เขาไม่ถนัดเอาซะเลยได้นี่แหละ

และสุดท้ายนี้ อะไรเอ่ยที่จะกวนใจคุณระหว่างการรับชมหนังเรื่องนี้มากกว่ากัน ระหว่าง การพูดติดๆ ขัดๆ ไปเป็นธรรมชาติของ Kristen Stewart หรือ Viggo Mortensen ที่เหมือนสเลดติดคอเขาอยู่ตลอดเวลา…

Crash (1996)

 

Crash (1996 / David Cronenberg)
(Canada / UK)

เปิดเผยเนื้อหา ***

เซ็กส์นอกกรอบ
สำหรับ James กับ Catherine คู่สามีภรรยาตัวหลัก อาจจะยังอยู่ในกรอบอยู่ แม้ว่าจะพยายามสรรสร้างความสุขในชีวิตคู่ด้วยการมีเซ็กส์กับคนอื่น จะค่อยๆ ไปสู่ความหมิ่นเหม่นอกกรอบขึ้นก็นับตั้งแต่ James ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วได้รู้จัก Helen ผู้บาดเจ็บเสียสามีจากอุบัติเหตุเดียวกัน จากนั้น James ก็เริ่มได้รู้จักกลุ่มรสนิยมเดียวกันกับ Helen กลุ่มที่หลงไหลและเกิดอารมณ์ทางเพศกับรถยนต์ (Helen ชอบมีเซ็กส์ในรถยนต์)
กับ Catherine แม้เธอจะพุ่งตรงไปสู่ความหมิ่นเหม่แบบเดียวกับ James สามีตนเอง แต่เธอก็พยายามค้นหาความสุข-การเพิ่มระดับเซ็กส์กับสามี อย่างเช่น ตอนมีเซ็กส์กับ James ตัว Catherine ก็จะพูดถึง Vaughan (หนึ่งในกลุ่มหัวหอกคลั่งรถยนต์กลุ่มเดียวกับ Helen) พูดถึงการได้มีเซ็กส์กับเขาบนรถของเขา พูดถึงรสชาติ-กลิ่นน้ำอสุจิของเขา พูดจิตนาการไปเธอก็ครางไป James ก็กระเด้าไป แล้วจากการแค่พูดถึงชายอื่นระหว่างมีเซ็กส์กับสามี ก็นำไปสู่การได้มีเซ็กส์กับ Vaughan ในรถเขาจริงๆ โดยมี James นั่งรับรู้อยู่ด้วย โดยเซ็กส์จากน้ำมือของ Vaughan นั่นเต็มไปด้วยความกระหายที่พร้อมฝากรอยช้ำตามเนื้อตัว Catherine ไว้ ซึ่งก็กลายมาสิ่งเย้ายวนให้ James สัมผัสรอยช้ำของภรรยาในภายหลัง

ชอบการเติบโตของ James จากการประตูไปสู่โลกใหม่ทางเซ็กส์ทีละระดับไปเรื่อยๆ จากนอนกับผู้หญิงอื่นระหว่างงาน ไปสู่การมีเซ็กส์บนรถในลานจอดรถที่คนเดินกันไป ไปสู่การได้เห็นภรรยาตัวเองมีเซ็กส์กับชายอื่น(คนรู้จัก) จากนั้นก็ค่อยๆ ไปไกลขึ้นชนิดที่ว่า เป็นเซ็กส์ที่ไม่ยึดติดแล้วกับเรื่องเพศ เช่น หื่นกระหายเกิดอารมณ์ทางเพศกับแผลเป็นจากอุบัติเหตุรถชนอะไรพวกนี้

สำหรับเซ็กส์นอกกรอบจริงๆ ส่วนตัวคิดว่าเป็นฉากท้ายเลย การขับรถบี้กระแทกชนท้ายกัน มันอาจเปรียบเป็นมีเซ็กส์แบบกระเด้าใส่กัน และความตายสนิทนั้นก็คือการได้ถึงจุดสุดยอดแบบครั้งเดียวในชีวิต ซึ่งพอคิดแบบนี้แล้ว ก็ทำให้มองฉากก่อนจบในมุมเดียวกัน ที่ยังคงเป็นการสนับสนุนเห็นชอบไปในทางเดียวของสามีภรรยาคู่นี้ในเรื่องของประสบการณ์เซ็กส์ที่สุดเหวี่ยง เหมือนฉายภาพซ้ำแต่เปลี่ยนให้ James สวมบท Vaughan ด้วยรถยนต์ยี่ห้อเดียวกัน ขับรถกระแทกชนท้ายกระเด้าใส่กัน แต่เพราะนี่คือครั้งแรกของพวกเขา จึงผิดพลาด แม้จะลงเอยด้วยความเจ็บแต่นั่นก็เป็นเรื่อง-ความรู้สึกรองลงมา สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดตอนนั้น ก็คือ เซ็กส์ รอไม่ไหวทนไม่ได้ จึงต้องล่อกันตรงซากรถคว่ำนั่นแหละ

Shivers (1975)

 

Shivers (1975)

การชักชวนเชื้อเชิญเข้าลัทธิโดยยื่นข้อเสนอเป็นเรื่องเซ็กส์ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่แต่ถ้าปากชนกันแล้ว นั่นคือการชักชวนเข้ากลุ่มได้สัมฤทธิ์ผลแล้ว ซึ่งถ้าใครคนนั้นดื้อไม่รับข้อเสนอ สิ่งที่พวกลัทธิทำได้คือใช้กำลับีบบังคับข่มขืนใจงและเรียกพวกมสกดดันเพื่อให้คน ๆ นั้นยอมรับข้อเสนอนี้ ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะรังเกียจการเข้าลัทธิเพียงใด แต่เมื่อได้เข้ามาแล้ว ทุกคนก็จะแฮปปี้กันขึ้นมาทันที เซ็กส์ที่เหมือนเป็นลายเซ็นของลิทธิก็คือสิ่งที่ทำลายกำแพงทางศีลธรรมของมนุษย์ ชาย-หญิง ชาย-ชาย เซ็กส์หมู่ พ่อ-ลูก ฟรีเซ็กส์คือจุดขายของลัทธินี้

ข้อความข้างบนก็แค่เปรียบเปรย จริง ๆ มันก็หนังสยองขวัญ ที่ว่าด้วยการติดเชื้อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งภายในคอนโดแห่งหนึ่ง จากผู้หญิงหนึ่งคนที่แอบมีผู้ชายในตึกแอบมีสัมพันธ์สวาทลับหลังโดยหารู้ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้คือต้นตอของปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น ปรสิตจากตัวผู้หญิงคือสิ่งที่แพร่กระจายเข้าหาคนอื่นโดยหลักแล้วคือทางปากต่อปาก จากคนสองคนก็เริ่มลุกลามไปหลายคนในคอนโด จนทำให้คนที่ปกติต้องหาทางเอาตัวรอดจากกลุ่มคนติดเชื้อพวกนี้

รู้สึกคิดผิดจริง ๆ ที่ดันดูหนังเรื่องนี้ตอนกินอยู่ บางฉากนี่แทบพุ่ง …

The Fly (1986)

 

The Fly (1986)

เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ ***

นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งมีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่เค้าคิดว่าเปลี่ยนโลกได้ เค้าเป็นคนอ่อนโยน ใจดี และชอบเก็บตัว เค้ายังอ่อนประสบการณ์ในเรื่องความรัก จึงตัดสินใจผิด ๆ โดยไร้ความรอบคอบเพราะแรงหึงหวงกับความเมา ผลเลยลงเอยโดนเอาตัวเองเข้าทดลองโดยมีข้อผิดพลาดทางเทคนิคซ่อนเร้นอยู่ จากผู้ชายธรรมดา นิสัยดี เงียบ ๆ กลายเป็นคนโผงผาง แข็งแรงผิดมนุษย์ ไม่เหน็ดไม่เหนื่อย ไม่หลับไม่นอน ปีนกำแพงได้ด้วยมือเปล่า ในช่วงแรกเค้าเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้กับตัวเองเป็นสิ่งดี ทำให้เค้าเปลี่ยนไป กล้ามากขึ้น เพียงแต่เค้าไม่รู้อย่างเดียวคือการเปลี่ยนแปลงมันไม่หยุด มันจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ และหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อที่กลายเป็นสิ่งที่อยู่กับตัวเค้าตอนทดลองครั้งแรก นั่นคือ “แมลงวัน”

Short Note *1

American Beauty (1999)

ตัวเอกของเรื่อง สปอยเองตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยว่า ท้ายเรื่องตัวเองจะตาย !!

และอีกอย่างที่ไม่เข้าใจคือ ลูกสาว ทำไมจึงอยากจะไปเสริมหน้าอก ทั้ง ๆ ที่ของตัวเองก็ใหญ่อยู่แล้ว ..