Chillerama (2011)

Chillerama.jpg

 

Chillerama (2011 / Adam Rifkin,Tim Sullivan,Adam Green,Joe Lynch )
(USA)

คอมเมดี้ / สยองขวัญ 3 in 1
เปิดเรื่องเป็นโรงหนัง Drive-in ที่ฉายหนังควบสามเรื่องรวด พอรวบยอดแล้วมีหนังทั้งหมดในเรื่องนี้ สี่เรื่องใหญ่บวกหนึ่งเรื่องสั้น สามเรื่องฉายเป็น Drive-in หนึ่งเรื่องเป็นเรื่องราวของโรงหนัง Drive-in กับอีกเรื่องสั้นฉายแซมแทรกไว้ถัดจากสามเรื่องแรกจบ

Wadzilla (Adam Rifkin) 900/1000
แม่งเป็นหนังสัตว์ประหลาดที่คาดเดาไม่ถูกแน่ว่ามันเป็นตัวอะไร สัตว์ประหลาดยักษ์ถล่มเมืองที่ว่านี้ คือ ตัวอสุจิหนึ่งตัว
เรื่องของเรี่องมันเกิดจากผู้ชายคนหนึ่งที่เชื้ออสุจิไม่แข็งแรง คนทั่วไปมีเป็นล้านแต่ของเขามีแค่หนึ่งตัว หมอเลยให้ยาเพิ่มพลังแก่เชื้อมา ปรากฏว่ายามันแรงจนส่งผลให้ ทุกครั้งที่เขาเกิดอารมณ์ทางเพศแม้จะนิดเดียวเขาจะหลั่งทันที ซึ่งสองสามครั้งหลังสุดที่เขาหลัง อสุจิเขาของหนึ่งตัวมันเริ่มมาขนาดใหญ่ขึ้น จนตัวล่าสุดมันใหญ่เท่าแมวตัวหนึ่ง ยิ่งเขาพยายามกำจัดโยนลงโถส้วมมันก็ยิ่งใหญ่ขึ้น จากหัวเนียน ๆ ก็กลายมามีปากมีเขี้ยวน่ากลัว ทีนี้พอมันหลุดไปแดกสัตว์ตัวอื่นแดกมนุษย์เป็น ๆ มันก็ยิ่งทำให้ตัวใหญ่โตขึ้นหลายเท่าตัวในเวลาอันสั้น จนอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ มีปากมีเขี้ยวมีตาและตัวใหญ่เท่าตึก ความจัญไรของเรื่องนี้คือช่วงท้าย มีอสุจิตตัวนี้มีเป้าหมาย เปรียบเป็นเพศผู้ที่ต้องหาเพศเมีย โดยสิ่งที่มันหมายตาไว้ก็คือ อนุสาวรีย์ เทพีเสรีภาพ นั่นเอง
ฉากสุดท้ายนั้นเหี้ยมากและขำเหี้ย ๆ เสื่อมสุด ๆ มันคือมหาวินาศภัยน้ำแตกใส่ทั้งเมืองอย่างรุนแรงเปียกเยิ้มกันถ้วนหน้าทั้งตึกทั้งคนทั้งรถถัง(รวมทั้งคนยิวและมุสลิมด้วย) มีแอบใส่เรื่องจริงบางอย่างมาล้อกันด้วยกับเรื่องน้ำแตกใส่หน้าเนี่ย เอาเข้าจริงสัตว์ประหลาดตัวนี้มันก็คืออสุจิของเขานั่นแหละ และการที่สัตว์ประหลาดยักษ์น้ำแตกใส่ทั้งเมืองและเลอะหน้าผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างเขาด้วย มันก็เหมือนกับว่าเขาเป็นเจ้าของน้ำอสุจิพวกนี้ด้วย การที่ฝ่ายหญิงต้องการจูบกับเขาแล้วเขามีท่าทีไม่อยากจูบปากเธอ มันก็เหมือนกับไม่อยากเอาตัวเองไปสัมผัสน้ำอสุจิของตัวเองนั้นแหละ 5555555555555

I Was a Teenage Werebear (Tim Sullivan) 555/1000
ไม่ใช่มนุษย์หมาป่า แต่เป็นมนุษย์หมี
ตัวหนังนั้นแอบเป็นหนังเพลงไปพร้อม ๆ กับหนังเกย์ กลิ่นอายหนังเกย์มันลอยมาตั้งแต่ไอ้หนุ่มผมทองหน้าหล่อชุดหนังปรากฏกายขึ้น แล้วที่ฮาน้ำตาเล็ดคือการแปลงกายของพวกเขาเป็นมนุษย์หมีนี่แหละ ไม่จำเป็นต้องรอพระจันทร์เต็มดวงขอแค่พวกเขามีอารมณ์ทางเพศขึ้นมาอย่างรุนแรงเขาก็สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์หมีได้ แต่มนุษย์หมีที่ว่านี้อาจมีแค่หน้าตาเท่านั้นที่มีขนขึ้นตาเปลี่ยนสีและมีเขี้ยวงอก ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกที่เหลือก็จะเปลี่ยนจากเด็กหนุ่มหุ่นแน่นกลายเป็น ชายตัวใหญ่ใส่เสื้อหนังรัดมีโซ่มีเข็มขัดคาดตามตัว ชนิดที่ว่ามองปุ๊บรู้ปั๊บว่านี่คือแบบอย่างของเกย์กลุ่มหนึ่ง (พอหาข้อมูลเพิ่มก็ทำให้รู้ว่า ชื่อหนังตอนนี้คือคำใบ้ชัดเจนว่าทิศทางหนังจะไปทางไหน และ Werebear ก็เป็นคำศัพท์สำหรับเรียกเกย์กลุ่มนี้โดยเฉพาะ หรือแบบไทยก็ ผู้ชายหมี นั่นแหละ >> ดูรูปอ่านข้อมูลเพิ่ม << )
ส่วนความรู้สึกสำหรับตอนนี้คือ เฉย ๆ อ่ะ ไม่ได้ชอบหรือเกลียดอะไรเป็นพิเศษ

The Diary of Anne Frankenstein (Adam Green) 1000/1000
หนังเยอรมัน พูดเยอรมันทั้งเรื่อง (นักแสดงต้องพูดเยอรมันเอง) ที่เปิดเรื่องได้โคตรเครียดแต่เครียดได้แปปเดียวมันก็กลายเป็นหนังตลกไปแบบไม่ทันตั้งตัว ไอ้ความตลกที่มาพร้อมกับซีเรียสนี่มันเป็นจังหวะลงตัวมาก เป็นเรื่องที่นั่งขำมันไม่มีหยุดเลย บางช็อตนี่เล่นขำจนปวดท้องไปหมด มุขบางมุขนี่ก็โคตรหลุดทางชนิดที่ว่ามึงกล้ามาก เล่นแบบนี้ก็ได้หรอ
เรื่องราวก็เป็นทหารนาซีและฮิตเลอร์ไปได้สมุดบันทึกวิธีการสร้างแฟรงเกนสไตน์มา ฮิตเลอร์อยากสร้างจึงสั่งให้สัปเหร่อไปหาศพมา แต่เจ้ากรรมพอประกอบร่างกายจากชิ้นส่วนศพเสร็จ แฟรงเกนสไตน์ดันมามีรูปร่างเฉพาะเป็นคนยิวไปซะงั้น (ทั้งหมวกไว้เครายาวและผ้าคลุมยาวสีขาวพาดไหล่แบบคนยิว) การปลุกชีพแฟรงเกนสไตน์ที่แทบทนขำไม่ได้ จากปกที่เป็นวิทยาศาสตร์การทดลองสร้างไฟฟ้ามากระตุ้น ก็กลายเป็นการจุดเทียน 7 เล่ม พร้อมร่ายอาคม แล้วสายฟ้าก็ผ่าจากไหนไม่รู้เข้าตัวแฟรงเกนสไตน์ (แม่งจากวิทยาศาสตร์กลายเป็นไสยศาสตร์ไปซะได้) …จากนั้นดูเอาเองละกัน แต่ขอยืนยันว่ามันขำจริง ๆ และสนุกมาก

Zom-B-Movie (Joe Lynch) 700/1000
ปูเรื่องมาตั้งแต่เริ่ม ระหว่างช่วงรอยต่อการฉายหนังสามเรื่อง ก่อนจะเริ่มละเลงเลือดกลายเป็นหนังซอมบี้จัดเต็มในช่วงท้ายเรื่อง ความสนุกของเรื่องนี้มันอยู่ตอนท้ายจริง ๆ นั่นแหละ แล้วส่วนที่ทำให้สนุกก็คือฉากโหดล่อกันเลือดสาดอวัยวะกระเด็นเต็มจอที่มาพร้อมการเป็นซอมบี้ที่แตกต่างออกไป ซอมบี้ปกติคือต้องแดกสมองแต่นี่เป็นซอมบี้ขี้เงี่ยนที่เมื่อจับเหยื่อมาได้ก็จะเริ่มละเลงเซ็กส์กันทันที ทั้งการบังคับอีกฝั่งใช้ปาก จับหันหลังเข้าข้างหลังโดยไม่สนเรื่องเพศทั้งนั้น บางทีก็ประกบหน้า-หลังดึงกันจนคนตรงกลางขาดครึ่งก่อนแต่ไม่หยุดเอา บางตัวเอาเหยื่อที่เหลือท่อนล่างทางกระเพราะลำไส้ แม่งคือปาร์ตี้เซ็กหมู่ของพวกซอมบี้นั้นเอง ที่ไม่สนใจเรื่องการต้องเอาทางรูไหน ถึงตัวขาดครึ่งแม่งก็โดนซอมบี้เอาได้เหมือนกัน
แม้จะเป็นหนังซอมบี้แต่ก็ยังโมเม้นโรแมนติกของคู่วัยรุ่นชายหญิงที่ต้องเอาตัวรอดไปพร้อม ๆ กัน ช็อตที่หวานชวนอ้วกที่สุดคือฝ่ายชายสารภาพว่ายังเวอร์จิ้นอยู่ เพราะเขานั้นรอเธอมาตลอดไม่มีใครอื่น ก่อนจะตบเรื่องของทั้งคู่ในช่วงท้ายที่ว่า I Don’t Want to Die a Virgin ในสถานการณ์ที่แอบเครียดอยู่ มันเป็นสถานการณ์ที่บังคับให้ต้องเอากันได้แล้วก่อนตายท่ามกลางสายตาพวกซอมบี้หลายสิบตัวที่ทั้งมองและกระเด้าตูดไปพร้อม ๆ กัน

ส่วนเรื่องสั้นที่แทรกมาก็สุดแสนจะเสื่อมและต่ำโคตร มันเป็นเหมือนวีดีโอที่ว่าด้วยเรื่องของ ขี้ ขี้ ขี้ แล้วก็ ขี้ ทั้งเป็นก้อนแข็งและเหลว เป็นน้ำ ………

ชอบบทเจ้าของโรงหนัง Drive-in ที่มี orson welles เป็นไอดอล แล้วชอบหยิบยกประโยคของผู้กำกับคนนี้มาพร้อม ในช่วงท้ายที่ต้องบวกกับซอมบี้ เฮียก็จัดประโยคเด็ดดัง ๆ จากหนังหลายสิบเรื่องเลย (จำได้แค่จาก Die Hard ประโยคเดียวเอง)

อีกอย่างที่ชอบคือการพยายามหยิบเอาสไตล์ของหนังแต่ละแบบมาใส่ลงในหนัง อย่างเรื่องแรกก็พยายามทำให้ดูเป็นหนังสัตว์ประหลาดยุคเก่าโน่น ทำโทนสี ทั้งเครื่องแต่งกาย ไปจนถึงเอฟเฟคซีจีแบบแปะทับ ที่เห็นก็รู้เลยว่ามึงตั้งใจให้ออกมาแบบนี้แน่ ๆ เรื่องที่สองก็ทำเป็นหนังเพลงขายวัยรุ่นทำนองนั้น เรื่องที่สามก็เป็นหนังคลาสสิกขาวดำมาเลย เรื่องที่สี่ก็มีใส่ลูกเล่นมุมกล้องร่วมสมัยบางอย่างเนียน ๆ ลงไป เช่นมุมกล้องแบบแฮนด์เฮล ที่มีนิดเดียวแต่ดูก็รู้ว่ากูขอใส่ไว้นิดนึงน่า

Chillerama 4

โฉมหน้าผู้กำกับ

Tags: , , , , , , ,

Leave a comment