Asura Girl: A Blood-C Tale (2017)

Asura Girl: A Blood-C Tale (2017 / Shûtarô Oku)
(Japan)

ตัวเรื่องคือเนื้อหาที่แตกหน่อมาจาก Blood-C ของ Clamp แหละก็ขี้เกียจไปหาข้อมูลเชื่อมโยงว่ามันก่อนมาหลังหรือยังไง นี่ก็หยิบมาดูโดยไม่ได้รู้ในส่วนนี้เช่นกัน แต่หลังจากรับชมไปเกือบจบก็ค่อนข้างประหลาดใจตรงที่ แทนที่ตัวละครซายะนักล่าแวมไพร์ที่เป็นตัวหลักมาตลอดในซีรี่ส์ Blood-C ได้กลายเป็นตัวรองไป เป็นตัวรองชนิดที่แทบจะเป็นตัวประกอบไปเลยด้วยซ้ำ เพราะภายใต้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของมนุษย์ ฝั่งชาวบ้านกับฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ มันเข้มข้นมันหนักเสียจนไม่เหลือพื้นที่ให้ซายะนักล่าแวมไพร์ที่มีหน้าที่ฆ่าปิศาจเข้าแทรกได้เลย

ซึ่งในส่วนของความขัดแย้งในสองฝ่ายมันก็แทบจะโยนคำถามจากเหตุการณ์หลักที่ว่า “คนตายใครคือคนร้ายไปจวบจนใครคือปิศาจ” ใส่ได้ทั้งสองฝ่าย ผ่านความใสซื่อหรืออริ/อาฆาตที่สามารถมองอีกฝ่ายได้ว่า พวกนั้นคือปิศาจเราต้องกำจัดพวกมัน
มันเริ่มมาจากตำรวจโดนฆ่า ตำรวจมองได้แบบเดียวคือ ในพวกชาวบ้านนี้มีพวกคอมมี่แฝงตัวอยู่แล้วมันฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราต้องหามันให้เจอ ใครแข็งข้อก็อัดมันจับมันมาทรมาณจนกว่าจะคายความลับมาว่า “สหายคอมมี่ของพวกเอ็งหลบกันอยู่ไหน”
คราวนี้พอมีเหยื่อที่โดนฆ่าตายเป็นชาวบ้านบ้าง ชาวบ้านก็ชี้หน้าใส่ตำรวจทันทีว่า “ชาวบ้านโดนตำรวจเข่นฆ่า” จนแทบจะปลุกระดมให้รุกเข้าทำร้ายตำรวจกัน แต่หญิงสาวอาวุโสที่เป็นดั่งผู้นำของหมู่บ้านก็ใช้เหตุผลเข้าควบคุมอารมณ์ของชาวบ้านได้
ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็น่าจะเป็นปกติของสังคมญี่ปุ่นที่ชายเป็นใหญ่แล้วผู้หญิงถูกกดให้กลายเป็นเบี้ยล่างห้ามมีปากมีเสียงเถียงกับผู้ชายเป็นอันขาด ดังนั้นเมื่อหญิงสาวผู้นำหมู่บ้านสามารถควบคุมฝูงชนได้ด้วยเหตุผลก็เลยกลายเป็นความไม่ชอบใจของหัวหน้าตำรวจ ที่ใจเป็นอริและเหยียดต่อผู้หญิงคนนี้ที่ทำตัวออกคำสั่งเทียบเท่าผู้ชาย หัวหน้าตำรวจมักสบถใส่ผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิง ผู้หญิง
ต่อมาเราก็จะได้รู้แหละว่าใครคือฆาตกรคนที่ฆ่าชาวบ้านและตำรวจ คนๆ นั้นคือน้องสาวตัวเอกผู้ชายที่ป่วยนอนโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ป่วยจริงเมื่อตกดึกเธอหิวเธอก็จะออกล่าทำร้ายแดกเนื้อผู้คนยามค่ำคืน แล้วคืนหนึ่งเธอก็ไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจไม่ตายหนีกลับมายังที่พักตำรวจได้ ก่อนที่ตำรวจติดเชื้อทำร้ายตำรวจด้วยกันเองจะโดนฆ่า ตำรวจที่เห็นว่าใครคือคนทำร้ายเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง คำที่ตำรวจก่อนตายพูดออกมาก็คือ ผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้น … เพียงแค่นี้ก็ทำให้หัวหน้าตำรวจมั่นใจว่า อีผู้หญิงหัวหน้าหมู่บ้านมันคือฆาตกรโหดที่ทำร้ายตำรจและชาวบ้าน ไปควบคุมตัวหล่อนมาที่นี่เดี๋ยวนี้
ในการสอบสวนแม้ฝั่งหญิงสาวอาวุโสกับชายคนสนิทจะยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่เกี่ยวและมีพยาน แต่จะทำอะไรได้ในยุคสมัยนั้นถ้าตำรวจตั้งธงไปแล้วว่าฆาตกรคือเธอคนนี้ สิ่งที่ตำรวจทำก็คือไม่จับขังหรอก หยิบมีดมาวางไว้แล้วกดดันให้ผู้ต้องสงสัยสารภาพแล้วฆ่าตัวตายไปซะ ตรงนี้ด้วยความรักของชายคนสนิทเขาจึงหยิบมีดสารภาพผิดแทนหญิงสาวอาวุโสที่เป็นผู้บริสุทธิ์แล้วคว้านท้องตัวเองตายแทน
ในส่วนของสองพี่น้องที่พี่สาวป่วยนั้น น้องชายเหมือนจะรู้อาการที่แท้จริงของพี่สาวอยู่แล้ว เขามักแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่ให้พี่สาวไปทำร้ายผู้คนด้วยการ มอบนิ้วของเขาให้พี่สาวกินจนนิ้วตัวเองด้วนก็ยอม
นอกเหนือจากชาวบ้านตำรวจสองพี่น้องแล้ว ต้นตอของปัญหาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากฝ่ายหมอที่เข้ามาดูแลชาวบ้าน ซึ่งความจริงเปิดเผยว่าหมอคือคนที่ทดลองกับชาวบ้านเพื่อผลลัพท์ในการสร้างทหารที่เป็นอมตะ แล้วหนึ่งเดียวในการทดลองกับชาวบ้านที่ไม่สำเร็จล้มตายกันไปก็คือพี่สาวของตัวละครชายนี่แหละ ที่เป็นผลสำเร็จในการทดลอง โดยหมอพวกนี้เข้าหาชาวบ้านได้ง่ายก็เป็นผลมาจากการรับเงินของหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อแลกกับการมีหมอประจำในหมู่บ้านที่ฉากหน้าเหมือนรักษาช่วยชาวบ้านแต่ความจริงคือจับชาวบ้านมาทดลองเป็นหนูลองยาในการทดลองของทางรัฐ
ถ้าเมื่อไหร่ที่การทดลองนี้สิ้นสุดลง หมู่บ้านนั้นก็จะถูกกำจัดเผาทิ้งหมดทั้งคนทั้งบ้านเรือนลบให้หายไปจากการมีอยู่พร้อมทั้งหมู่บ้านชาวบ้านและการเคยมีหมอมาลงพื้นที่ที่นี่

เนี่ยคือเนื้อหาหลักๆ ของหนังเรื่องนี้ คราวนี้ลองคิดดูนะ ซายะตัวละครหลักของ ซีรี่ส์ Blood-C ที่มีหน้าที่กำจัดแวมไพร์(ในที่นี่ก็คือพี่สาวที่ป่วยนั่นแหละ) คาแรกเตอร์ที่เป็นเส้นตรงปราบแวมไพร์แล้วจบๆ กันไป มันก็ไม่รู้จะส่งบทบาทของตัวละครนี้ไปลงไว้ตรงไหนในเนื้อหาหลักที่แน่นไปด้วความขัดแย้งแบบมนุษย์ของหนังแบบนี้ ผลที่ได้ก็คือ ซายะ ก็เลยกลายเป็นตัวรองไปอย่างที่ฉันเกริ่นไว้ด้วยประการนี้เอง
แล้วนอกเหนือจากเนื้อหาหลักๆ แล้ว ก็จะมีพวกตัวละครจากซีรี่ส์ Blood-C โผล่มามีบทแซมๆ ไว้แบบน้อยนิดด้วย ซึ่งแน่นอนฉันไม่รู้จักหรือจำไม่ได้หรอกแม้จะเคยดูฉบับอนิเมะมาตัวก็ตาม( Blood-C TV Series 2011 กับ Blood-C: The Last Dark 2012 หนังยาว) แต่กับแฟน Blood-C เหนียวแน่นอาจได้อีกความรู้สึกนึงก็เป็นได้

Tags: , , , ,

Leave a comment